นามเดิม แก้ว ทองพันธุ์ เกิดเมื่อปีมะแม พุทธศักราช 2393 ที่ ต.บางแค อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม บิดาชื่อ ทัพ มารดาชื่อ เนียม มีพี่น้องร่วมกันทั้งหมด 3 คน คือ 1.พระอาจารย์เกตุ วัดทองนพคุณ จ.เพชรบุรี 2.หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย 3.นายเทียน ทองพันธุ์
พระครูวินัยธรรม (หลวงพ่อแก้ว พรหมสโร) เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก วัดพวงมาลัย ซึ่งขณะนั้นท่านเป็นเจ้าอธิการวัดช่องลม ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พระครูวินัยธรรม หรือ หลวงพ่อแก้ว เป็นพระธุดงค์ที่มีความเชี่ยวชาญมสงสมถวิปัสสนากัมมัฏฐานมีคนนับถือมาก เชื่อกันว่าท่านสำเร็จญาณวิเศษสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆได้ทั้งปัจจุบัน อดีต อนาคต เหรียญหลวงพ่อแก้ว ที่ท่านสร้างขึ้นเองเป็นเนื้อทองเหลือง ที่เรียกว่า “เนื้อลงหิน” มีรูปหลวงพ่อแก้วอยู่ด้วย พร้อมด้วยตะกรุด ผ้ายันต์ และลูกอม นั้นมีคนนิยมกันมากว่าคงกระพันชาตรีดีนักแล ปัจจุบันมีราคาแพงมาก เช่นเดียวกับเหรียญหลวงพ่อคงวัดบางกะพ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตะกรุดใบลานที่หลวงพ่อเจาะจงทำให้ ต้องไปนำมาจากต้นที่ขึ้นอยู่ปลากคลองบังปืน ตำบลบังปืนเท่านั้น ผู้ใดอยากได้ตระกรุดก็ต้องไปตัดมาถวายให้ท่าน
ชื่อเสียงของหลวงพ่อแก้ว เป็นที่เลื่องลือมาในสมัยนั้น ในเรื่องอาคมขลัง เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกที่ได้ปูพื้นฐานของวัดให้เจริญรุ่งเรืองตกทอดกันต่อมากลายเป็นวัดพวงมาลัยที่งดงามมั่นคงมาจรทุกวันนี้ หลวงพ่อแก้ว พรมมสโร เป็นพระคณาจารย์แห่งลุ่มน้ำแม่กลองอีกท่านหนึ่ง มีชื่อเสียงโด่งดังมาก ไม่แพ้พระคณาจารย์อื่น ๆ
เมื่อปี พ.ศ.2416 เกิดอหิวาตกโรคระบาด ชาวบ้านไปขอน้ำมนต์จากท่านมาอาบและดื่มกินแล้วหายจากโรคกันมาก ชื่อเสียงของท่านก็โด่งดังเลื่องลือไปถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินในกรุงเทพฯ มีเจ้านายหลายพระองค์มาเยี่ยมหลวงพ่อแก้ว เช่น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช เป็นต้น
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดชนั้น ทรงคุ้นเคยกับหลวงพ่อแก้วเป็นพิเศษ ทรงสร้างตำหนักชื่อว่า “ญาโณยาน” ไว้ที่ข้างวัดพวงมาลัย 1หลัง เพื่อเป็นที่พักผ่อน พระตำหนักที่สมเด็จกรมพระนครสวรรค์วรพินิตเคยเสด็จประทับมาแต่ปัจจุบันได้ถูกรื้อไปแล้วเหลือแต่ที่ดินเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทในตระกูลภาณุพันธุ์ ปัจจุบันได้กระทำเป็นพินัยกรรมถวายให้เป้นที่ธรณีสงฆ์ของวัดพวงมาลัยแล้ว
บั้นปลายชีวิต
หลวงพ่อแก้ว ได้มรณภาพ เมื่อ พ.ศ.2462 สิริรวมอายุ 69 ปี นำมาซึ่งความโศกเศร้าของชาว อ.อัมพวา และละแวกใกล้เคียงเป็นยิ่งนักที่ได้สูญเสียพระเถราจารย์ผู้ทรงไว้ซึ่งพุทธาคมอีกรูปหนึ่งของ จ.สมุทรสงคราม อย่างมิรู้ลืม