“หลวงปู่เอี่ยม” หรือ “เจ้าคุณเฒ่า” หรือ “พระภาวนาโกศล” (เอี่ยม) ท่านเป็นชาวบางขุนเทียน ริมคลองบางหว้า ท่านเกิดเมื่อ วันศุกร์ เดือน 11 ขึ้น 8 ค่ำ จุลศักราช 1149 ปีมะโรง จัตวาศก ตรงกับวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2375 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นบุตรของ นายทอง และ นางอู่ ครอบครัวประกอบอาชีพทำสวน ตระกูล หลวงปู่เอี่ยม แต่เดิม มีนามสกุลว่า ทองอู่ แต่ไปคล้ายกับพระนามเจ้าต่างกรมพระองค์หนึ่ง เมื่อครั้งรัชกาลที่ 6 พระราชทานนามสกุล จึงได้เปลี่ยนเป็น ทองอู๋ และใช้สืบมาจนปัจจุบัน
ในวัยเด็ก โยมพ่อโยมแม่ของท่านได้นำท่านมาฝากมาเรียนหนังสือที่สำนัก หลวงปู่รอด อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนัง ในปีพ.ศ. 2387 มีอายุ 11 ปี ได้เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรม และต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่วัดเลียบ ต่อมาในปี พ.ศ. 2397 เมื่อท่านมีอายุครบ 22 ปี ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดราชโอรสาราม หรือ วัดจอมทอง ฉายา “สุวณฺณสโร” มีพระสุธรรมเทพเถระ (เกิด) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมเจดีย์ (จีน) กับพระภาวนาโกศลเถร (รอด) เป็นคู่กรรมวาจาจารย์ ท่านเคร่งและศึกษาด้านปริยัติธรรมมาก และชั่วระยะหนึ่งท่านก็ย้ายไปอยู่ที่วัดนางนอง โดยได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับ “หลวงปู่รอด” ซึ่งกำลังเลื่องชื่อมากในด้านวิทยาอาคมขลัง หลวงปู่เอี่ยมได้หันมาสนใจในด้านไสยเวท จนถึงขนาดได้เป็นศิษย์เอกที่พระอาจารย์รักมาก ครั้นต่อมาในปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) “หลวงปู่รอด” ได้ถูกถอดจากสมณะศักดิ์เดิม ให้เป็นพระสงฆ์ธรรมดา หลวงปู่รอดจึงได้ย้ายพระอารามไปครองอยู่ที่วัดโคนอน โดยมีเจ้าคุณเฒ่าตามไปรับใช้อยู่ที่วัดโคนอนด้วย ต่อมาไม่นานนัก หลวงปู่รอดได้ถึงแก่มรณภาพ หลวงปู่เอี่ยมก็ได้ครองตำแหน่งเจ้าอาวาสปกครองวัดโคนอนสืบแทนพระอาจารย์ต่อไป
เมื่อถึง พ.ศ. 2441 ในหลวงรัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าให้ “หลวงปู่เอี่ยม” ไปครอง “วัดหนัง” ต่อไป และรุ่งขึ้นอีก 1ปี องค์สมเด็จพระปิยะมหาราชก็ได้พระราชทานสมณะศักดิ์ให้แก่หลวงปู่เอี่ยมแห่งวัดหนัง เป็นพระราชาคณะที่ “พระภาวนาโกศล” (เอี่ยม) ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับพระอาจารย์ของท่านนั่นเอง ท่านได้ครองวัดหนังอยู่ถึง 27 ปีเศษ
ชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
ชื่อเสียงของ หลวงปู่เอี่ยม ได้เป็นที่พูดถึงมาจนปัจจุบันนั้นมาจากเหตุการณ์ ขณะที่รัชกาลที่ 5 ต้องเสด็จประพาสยุโรป จึงได้มาปรึกษาหลวงปู่เอี่ยม ท่านก็ได้ทำนายไว้ว่าพระองค์ท่านจะบรรลุผลสำเร็จพระบรมราโชบายทุกประการ แต่จะต้องประสบกับสัตว์ที่ดุร้ายในยุโรป และท่านจะต้องทรงขี่มัน หลวงปู่ท่านได้มอบพระคาถาเสกหญ้าให้ม้ากิน และมอบยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้าให้กับพระพุทธเจ้าหลวง และจะปกป้องคุ้มครองพระองค์ท่านให้ทรงปลอดภัย และคาถาดังกล่าวก็คือคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า และสุดท้ายฝ่ายฝรั่งก็ยอมศิโรราบในที่สุด เพราะรัชกาลที่ 5 ทรงเสกหญ้าให้ม้ากิน และบังคับม้าตัวนั้นได้
บั้นปลายชีวิต
หลวงปู่เอี่ยม ถึงแก่มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2469 สิริอายุ 93 ปี 71 พรรษา ครองวัดหนังนานถึง 27 ปี